หัวข้อที่ครอบคลุม
คำถามยอดฮิตสำหรับคุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านที่กำลังวางแผนส่งลูกไปเรียนมัธยมต่างประเทศ คงหนีไม่พ้นเรื่องระบบและรูปแบบการเรียนการสอนอย่างแน่นอน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองอันดับต้นๆ ว่าระบบไหนที่ลงตัวและเข้ากับลูกของเรา เพื่อสามารถดึงประสิทธิภาพของเขาออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ และการตัดสินใจนี้จะส่งผลกับอนาคตของเด็กๆในระยะยาวเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ วันนี้ Intake มีสรุปแบบสั้นๆมาให้ เกี่ยวกับความต่างของสองหลักสูตรยอดนิยมอย่าง A-Level และ IB ให้ผู้ปกครองได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ
เริ่มต้นกันที่หลักสูตรนี้เลย เป็นระบบการเรียนการสอนที่นิยมใช้มากที่สุดในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ซึ่งโดยทั่วไปจะเรียนทั้งหมด 2 ปี เทียบเป็นระดับชั้น Year 12-13 (ช่วงอายุประมาณ 16-18 ปี) หลักสูตร A Levels นี้จะเน้นการเรียนแบบวิชาการในการปูพื้นฐานให้กับเด็กๆ แต่อิงกับความสนใจและความต้องการของเด็กเป็นสำคัญ หลักสูตร A Levels นี้เด็กๆจะเลือกเรียนเฉพาะที่ตนเองสนใจหรือถนัดเท่านั้น โดยจะสามารถเลือกได้ 3-4 วิชา โดยไม่ต้องเรียนวิชาอื่นนอกเหนือจากวิชาที่เราเลือกเรียนในส่วนของเนื้อหาการเรียนการสอน ไว้ใจได้เลยว่ามีประสิทธิภาพมากๆ เพราะขึ้นชื่อว่าเข้มข้นและเจาะลึก ถ้าให้เห็นภาพก็อาจจะเทียบเท่าระดับเนื้อหาปี 1 และ 2 ในประเทศไทยเลยทีเดียว ส่วนด้านการวัดผลนั้น เขาจะให้เกรดแยกตามรายวิชา เกรดสูงสุดคือ A* และเรียงลำดับจากมากไปน้อยดังนี้ A, B, C, D, E และสุดท้ายคือ Ungraded จุดเด่นและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร A Levels นี้ คือต้องการให้เด็กๆได้ค้นพบความชอบและค้นพบตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก ให้น้องๆได้ดึงประสิทธิภาพและตัวตนให้เฉิดฉายออกมาได้ตั้งแต่ยังเล็ก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลักสูตร A Levels จึงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่วางแผนอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยระดับท็อปในประเทศอังกฤษ การเรียนหลักสูตร A Levels ถือว่าได้เปรียบและมีชัยไปกว่าครึ่ง
หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่นิยมในระดับนานาชาติทั่วโลก โดยเขาจะแบ่งวิชาระดับ Higher Level (HL) คือวิชาที่เราอยากจะเรียนเจาะลึกถึงแก่นวิชานั้นๆ และ Standard Level (SL) คือวิชาที่เรียนตามมาตรฐาน โดยตัวรายวิชาที่น้องๆจะได้เลือกก็จะมีทั้งสองแบบ คือวิชาบังคับทั่วไป (Math, English, Science, Social Studies) และวิชาที่เน้นให้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมและความหลากหลาย กระตุ้นให้เด็กสามารถมีความคิดความอ่าน พัฒนากระบวนการวิเคราะห์จากทั้งวิชาการและกิจกรรม เรียกว่าปลูกฝังให้น้องๆเก่งครอบคลุมทุกด้านทุกทักษะอย่างไรก็ตามการเรียนจะค่อนข้างหนักและเข้มข้นมากๆ เพราะจะเน้นทั้งวิชาการ การทำวิจัย การลงมือปฎิบัติ การเข้าร่วมโครงการต่างๆ ที่จะช่วยดึงศักยภาพด้านการวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ จิตอาสา ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์ สังคมและวัฒนธรรม หลักสูตร IB นี้จะเน้นการสอนแบบกว้างและครอบคลุม เพื่อส่งเสริมให้น้องๆมีความสามารถรอบด้าน โดยการให้คะแนนจะไม่ได้แบ่งเป็นเกรดเหมือน A Levels นะคะ เขาจะให้เป็นคะแนนรวมแต่ละรายวิชา เช่น ได้ 30 คะแนนจาก 50 คะแนนเป็นต้น สามารถยื่นคะแนนเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั่วโลก ซึ่งเหมาะกับคุณพ่อคุณแม่ที่อาจจะยังไม่ได้มีตัวเลือกเฉพาะเจาะจงในใจเท่าไหร่ว่าจะอยากให้น้องเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศใด
ทั้งสองหลักสูตร A-Level และ IB นั้น มีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งนี่เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการประกอบการตัดสินใจเท่านั้นค่ะ Intake ขอแนะนำว่าน้องๆควรได้รับการแนะแนวและคำปรึกษาอย่างถูกหลักจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะแต่ละหลักสูตรนั้นมีความเฉพาะและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันมากๆ การตัดสินใจปุบปับหรือตัดสินใจจากความชอบของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจจะเปลี่ยนชีวิตน้องไปได้เลยในพริบตา ต้องเลือกที่ใช่กับทางผู้เรียนด้วยถึงจะเกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริงค่ะ
ทั้งนี้ IDP ที่ปรึกษามืออาชีพของเรา พร้อมที่จะให้คำปรึกษาแก่น้องๆ และผู้ปกครอง ในการเลือกหลักสูตรที่เหมาะสมและความสนใจของผู้เรียน อยากเรียนแบบไหน สไตล์ใด เราพร้อมดูแลทั้งการแนะแนว ให้คำปรึกษา ลิสต์โรงเรียนประจำที่น่าสนใจ หลักสูตรแบบไหน ค่าเล่าเรียน ที่พัก วีซ่า ตั๋วเครื่องบิน ดูแลทุกขั้นตอนระดับ VVIP โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงค่ะ การันตีด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปี ส่งนักเรียนไปเรียนต่อและประสบความสำเร็จมาแล้วกว่า 1,000 คน
สร้างโปรไฟล์พร้อมทั้งปลดล็อกคุณสมบัติต่าง ๆ มากมาย รวมถึงคำแนะนำแบบส่วนตัว แอปพลิเคชันที่ติดตามได้อย่างรวดเร็ว และอื่น ๆ อีกมากมาย
Dive into our extensive collection of articles by using our comprehensive topic search tool.