หัวข้อที่ครอบคลุม
ทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่า Hard Skill กับ Soft Skill กันมาบ้างแล้ว แล้ว Hard Skill และ Soft Skill คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ
Hard Skill คือ ทักษะที่เราได้เรียนรู้ผ่านกระบวนการศึกษาในรูปแบบต่างๆ โดยเป็นทักษะทางด้านวิชาการและสามารถประเมินผลออกมาเป็นตัวเลขได้ ตัวอย่างการประเมินผลเช่น เกรดหรือคะแนนสอบ IELTS, ความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม, ความสามารถในการใช้ Microsoft excel, ประชุมออนไลน์ และ ความเร็วในการพิมพ์
Soft Skill คือ ทักษะที่เป็นส่วนเสริมให้กับทักษะ Hard Skill อีกทีหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่นทัศนคติ การสื่อสาร การปรับตัว ซึ่งเชื่อว่าทุกคนสามารถพัฒนาได้ การมี Soft Skill จะสามารถทำให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลต่อดีต่อองค์กรณ์ให้บรรลุเป้าหมายได้
Hard Skill และ Soft Skill เป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาไปควบคู่กันเสมอ จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ ในบทวามวามนี้เราจะเน้นที่ Soft Skill และเหตุผลว่าทำไม Soft Skills ถึงเป็นทักษะจำเป็นของคนทำงานยุค Digital ไปดูกันเลยค่ะ
People Skill คือ ทักษะในการทำงานร่วมกับคนอื่น การจัดการคน รวมถึงการจัดการกับตัวเองและความรู้สึกของตัวเอง คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในการทำงานหรือแม้แต่การใช้ชีวิตนั้น เราล้วนต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอยู่เสมอ ดังนั้นการมีทักษะ People Skills จะทำให้เราสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี และทำให้งานของเราบรรลุเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น
Communication Skill คือ ทักษะทางด้านการสื่อสาร ซึ่งรวมไปถึงทักษะการฟังที่ดี เพราะการฟังที่ดีจะทำให้เรารับสารได้อย่างถูกต้องและสื่อสารได้ชัดเจน ถูกต้อง จึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จในการสื่อสาร
ผู้ที่จะมีทักษะทั้ง 2 อย่างนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนประเภท Extrovert เท่านั้น คนที่มีบุคลิก Introvert ก็สามารถทำได้ดีไม่แพ้กันหากหมั่นฝึกฝน ในโลกนี้ก็มีผู้ที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงมากมายที่เป็นคนที่มีบุคลิก Introvert ยกตัวอย่างเช่น Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook คนส่วนใหญ่อาจมองว่าคนที่มี Extrovert เป็นคนที่พูดเก่งและมีทักษะการเข้าสังคมสูงซึ่งก็เป็นความเป็นจริง แต่ทักษะต่างๆ ล้วนเกิดจากการฝึกฝนหากผู้ที่มีบุคลิก Extrovert ไม่หมั่นฝึกฝนทั้งสองทักษะดังกล่าว ก็อาจทำให้ผู้ฟัง ไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้พูดต้องการจะสื่อสาร เนื่องจากไม่สามารถจับใจความได้ ในทางตรงกันข้ามคนที่มีบุคลิก Introvert แม้จะพูดน้องแต่สื่อสารกระชับและได้ใจความก็ย่อมถือว่ามีทักษะการสื่อสารสูงกว่า คนที่พูดเยอะแต่จับใจความไม่ได้ ดังนั้นทั้ง People Skill และ Communication Skill จึงเป็น Soft Skill ในระดับพื้นฐานที่ทุกคนควรจะมีหรือหมั่นฝึกฝน
การปรับตัว (Adaptability): ความสามารถในการยืดหยุ่นและปรับตัวในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
การเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร (Culture Fit): การเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กร
การทำงานร่วมกัน (Collaboration): ความสามารถในการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ
ภาวะผู้นำ (Leadership): การนำทีมและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น
ความคิดเติบโต (Growth Mindset): การมองหาโอกาสเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
การจัดลำดับความสำคัญ (Prioritization): การบริหารเวลาและงานให้มีประสิทธิภาพ
ทักษะการพูดในที่สาธารณะ (Public Speaking): การพูดและนำเสนออย่างมั่นใจ
ความแตกต่างระหว่างการฝึกฝนทักษะ Hard Skill และ Soft Skill คือ Hard Skill มีแบบทดสอบและแบบฝึกปฏิบัติมากมายที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ผ่านอินเทอร์เน็ต แต่สำหรับ Soft Skill การที่จะพัฒนาและฝึกฝนทักษะประเภทนี้ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์และข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจริง เพื่อเรียนรู้วิธีการรับมือและแก้ปัญหาในครั้งต่อ ๆไป Soft Skill ไม่ได้มีแบบฝึกหัดมากมายอย่าง Hard Skill การพัฒนา Soft Skill ส่วนใหญ่จึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ
กล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ โดยไม่กลัวว่าจะเกิดข้อผิดพลาด
ออกจาก comfort Zone เพื่อพาตัวเองไปสัมผัสปรสบการณ์ใหม่ๆ
ควรเลี่ยงการเสพสื่อหรือ Social Media ที่บั่นทอนจิตใจมากจนเกินไป
ควรเสพสื่อที่ให้พลังบวกกับตัวเอง
ฝึกทักษะการฟัง เพื่อให้สามารถแยกข้อเท็จจริงและความคิดเห็นของตัวเองได้
มี Role Model ของตนเอง จะทำให้เรามีกำลังใจในการพัฒนาตนเองได้ดีขึ้น
รู้จักตนเอง โดยการทำแบบทดสอบบุคลิกภาพ เช่น MBTI
*แบบทดสอบบุคลิกภาพเป็นเพียงแค่การประเมินวัดผลเราในช่วงเวลานั้นๆ แต่ไม่ได้เป็นการกำหนดหรือจำกัดคุณค่าของตัวเรา ผลของการทดสอบบุคลิกภาพสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาวะของเราและสิ่งที่เราสนใจในช่วงเวลานั้นๆ
การไปเรียนต่อต่างประเทศก็เป็นการออกจากก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราพัฒนา Soft Skill ได้ เพราะเป็นการที่เราพาตัวเองออกจาก Comfort Zone ในอีกรูปแบบหนึ่ง เมื่อตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศหมายถึงว่าเราได้ตัดสินใจก้าวออกจากสังคมที่คุ้นเคย อยู่ห่างจากเพื่อน คนรัก หรือแม้แต่ครอบครัว และปรับตัวเข้าสู่สังคมและเพื่อนใหม่ ในช่วง 3 เดือนแรกเราอาจรู้สึกว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหงาที่สุด แต่ถ้าเราผ่านมันมาได้ เราจะกลายเป็นคนใหม่ที่มีความรับผิดชอบสูง จัดการกับความรู้สึกได้อย่างดีและแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน ดังนั้นการไปเรียนต่อต่างประเทศจึงเป็นการที่เราได้ฝึกทักษะที่เกี่ยวกับ Soft Skill ไปในตัว
และที่สำคัญ เหตุหนึ่งที่ผู้ว่าจ้างสมัยนี้ชอบรับผู้ที่จบการศึกษาจากต่างประเทศเข้าทำงานเนื่องจากพวกเขาเหล่านั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาไม่ได้มีเก่งแค่ Hard Skill แต่พวกเขายังมี Soft Skill ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ
หากใครสนที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเองแล้วไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ สามารถติดต่อ IDP ขอรับคำแนะคำและความช่วยเหลือได้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
สร้างโปรไฟล์พร้อมทั้งปลดล็อกคุณสมบัติต่าง ๆ มากมาย รวมถึงคำแนะนำแบบส่วนตัว แอปพลิเคชันที่ติดตามได้อย่างรวดเร็ว และอื่น ๆ อีกมากมาย
Dive into our extensive collection of articles by using our comprehensive topic search tool.