รีวิวเรียนต่อคอร์ส BA (Hons) Fine Art: XD Pathway ที่ Central Saint Martins กับน้้องเบส มาอ่านข้อมูลประสบการณ์ตรงของน้องกันเลย
คอร์ส BA Fine Art: XD Pathway ของ CSM เป็นคอร์สที่ทำให้เบสได้กระโดดเข้าสู่โลกของการสร้างสรรค์งานศิลปะ Conceptual Art อย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของ Materiality หรือ Limitations of Space, Time & Place จากเดิมที่เราเคยทำแต่งานวาดเขียนแบบ Realistic/Surrealistic ไม่ได้เน้น concept ที่มีความลึกซึ้งมากนัก พอได้เข้ามาเรียนคอร์สนี้มันเปิดประสบการณ์ใหม่ให้เบสได้ฝึก critical thinking skills ในการ create งานได้เยอะมาก ผ่านการ critique ผลงาน และการแลกเปลี่ยนความคิดโดยอาจารย์และเพื่อน ๆนักเรียนด้วยกัน การได้ฟัง feedback จากคนอื่นเยอะ ๆ เพื่อการพัฒนา idea ทำให้งานของเราสร้างความหมายเชิงลึกและ well-conceptualized มากขึ้น
จุดประสงค์ของการเรียนใน XD Pathway คือ การผลักดันให้เราสำรวจความเป็นไปได้ที่ไม่เพียงแค่ "ศิลปะ หมายถึงอะไร" แต่ยังรวมถึง "ศิลปะสามารถทำอะไรได้บ้าง" และ "ศิลปะสามารถอยู่ที่ไหนได้" ความหมาย ของการทำงานในสถานที่ต่าง ๆ และการวางงานศิลปะในสถานการณ์เฉพาะ เพื่อให้คนต่างตั้งค่าถามเกี่ยวกับ สิทธิ และความรับผิดชอบของศิลปินที่มีต่อผู้ชมและสิ่งแวดล้อม คอร์สนี้ทำให้เบสเจอแนวทางในการสร้าง ผลงานของตัวเองที่เป็นแบบสื่อผสม ใช้วัตถุ เสียง สถานที่ หรือ สภาพแวดล้อม ที่มีอยู่แล้ว หรือพฤติกรรม ของผู้คน มา incorporate เพื่อทำให้งานเราเสร็จสมบูรณ์ ณ ช่วงเวลานั้น ๆ ที่เราได้ไปแสดงงานในที่ต่าง ๆ
งานที่เบสทำในตลอด 3 ปี จึงถูกพัฒนากลายมาเป็นงานทั้งแบบ Sound & Installation Art ที่ใช้เทคนิคการ เขียน code เพื่อสร้าง Sound Sensors ในตัว Found Objects ที่เราเลือกนำมาใช้ เพื่อเป็นองค์ประกอบใน การทำ Soundscape และ Durational Performance
อีกทั้งยังมีทั้งงานที่เป็นแบบ Animated painting/objects ซึ่งเป็นศิลปะแบบเคลื่อนไหวโดยเราใช้ electric appliances/inflated objects เป็นองค์ประกอบหลักในการทำให้งาน painting ของเราเกิด movement และเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวมันเอง จากกระแสแรงลมจากพัดลม หรือตัวลูกโป่งและอัดแก็สฮีเรียมเข้าไป เป็นต้น จึงเกิดเป็นเสมือนงานศิลปะการ แสดงในรูปแบบใหม่ที่ให้คนสามารถมา interact เป็นส่วนหนึ่งของงาน และเกิดประสบการณ์ร่วมไปกับงานและคอนเซ็ปที่เราต้องการจะสื่อเรียกว่าเป็นขึ้นงานตอน Final Year ที่เป็น Breakthrough piece สำหรับเราเลยก็ว่าได้ค่ะ
โดยรวมแล้ว คอร์ส Fine Art และ learning environment ที่ CSM ทำให้นักเรียน become more experimental ทดสอบความคิดนอกกรอบเรา ซึ่งท้าทายและสนุกมาก ได้เรียนรู้จักตัวเองผ่านการ create งานเป็นนามธรรม ไม่มีผิดถูก และได้เรียนรู้จักเข้าใจโลกที่เราเป็นอยู่มากขึ้น สื่อออกมาในงานที่คนสามารถเข้าถึงได้และสร้าง positive impact ให้กับ audience ด้วย บวกกับโอกาสดี ๆ ที่ให้นักเรียนได้ทำ cross-pathway collaboration projects และได้ไปจัดแสดงงานในหลากหลายสถานที่ ในใจกลางกรุงลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงงานตามทางเดินท้องถนน ตามสถานีรถไฟ Kings Cross St Pancras Camden Arts Centre และ Tate Modern ในโปรแกรมที่ชื่อว่า Tate Exchange Programme ที่มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากมาจากหลากหลายที่ทั่วโลก
ส่วนใหญ่จะคอยตามไปดูงาน exhibitions หรือ shows ในแกลลอรี่ดัง ๆ museum และ art fairs ทุกที่เท่าที่เราจะไปได้ รวมถึงงาน open studios ตามมหาวิทยาลัย หรือ degree shows ของนักเรียนรุ่นพี่และศิษย์เก่าที่จะมีการจัดแสดงทุก ๆ ปีตาม art universities ต่าง ๆ ในลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นที่ Slade School of Art (UCL), Chelsea College of Arts, Royal College of Art รวมถึงานนิทรรศการที่จัดโดย curator รุ่นใหม่ๆ หรือ curating students ตาม local gallery เป็นต้น ยิ่งเราได้เอาตัวเองไป expose กับงานศิลปะในหลากหลายรูปแบบมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งเข้าใจถึงโครงสร้างการ curate งานทั้งแบบ solo/หรือ group การ articulate idea การเลือกวัสดุต่าง ๆ ที่นำมาใช้และดัดแปลง และได้ซึมซับถึง concept ต่าง ๆ ที่ศิลปินแต่ละท่านได้ออกแบบสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างน่าสนใจและ unique มากๆ
CSM Library ยังเป็นอีกสถานที่สำคัญที่ทำให้ทำให้เราได้รับแรงบันดาลใจในการทำงานได้ดีมาก ไม่ได้เพียงแต่ หาจากใน Internet หรือคลังหนังสือในแต่ทุกมุมชั้นของห้องสมุดอย่างเดียว ส่วนใหญ่เรามักจะได้ inspiration มาจากการสนทนา พูดคุยกันเพื่อน ๆ หรือนักเรียนจากคอร์สอื่นที่เราได้ไปพบปะรู้จัก เจอกันตามมุมที่นั่งทำงานต่างๆใน Library มันเป็น safe space ที่ทำให้นักเรียนต่างคอร์ส ต่าง background ต่างความคิด ได้มารวมตัวกัน แลกเปลี่ยนความคิดให้ feedback ในการทำงานกัน อย่างไม่ตัดสิน เรามองห้องสมุดที่นี่เป็นเหมือน community space ที่ต่างจากมหาลัยที่อื่นมาก ๆ เป็นบรรยากาศการนั่งเรียนที่เป็นกันเอง และboost productivity ในตัวเรา สร้าง enjoyment ในการไปเรียนในทุก ๆ วันได้เป็นอย่างดี
ถ้าเป็น exhibition ที่ชื่นชอบคงจะเป็นงานของ
แอร์วิน วูร์ม (Enwin Wurm: One-minute culptures)
ซึ่งเคยจัดแสดงที่ Thaddaeus Ropac และ Tate Modern เป็นงานประติมากรรมหนึ่งนาที ที่เชิญชวนให้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมเข้ามามีส่วนร่วม ด้วยการที่วูร์มจะเขียนคำสั่งด้วยลายมือหวัด ๆ และภาพ ลายเส้นคล้าย การ์ตูนบนพื้นที่แสดงงาน เพื่อให้ผู้ชมที่ทำการกลายร่างเป็นประติมากรรม ด้วยการโพสท่า ร่วมกับวัสดุข้าวของเครื่องใช้ใกล้ ๆ มือในชีวิตประจำวันที่เขาเลือกมา ไม่ว่าจะเป็น ดินสอ ปากกา หนังสือ ถังน้ำ เก้าอี้ แล้วคงท่านั้นไว้นานหนึ่งนาที มันเป็นงานที่เรียกร้องความสนใจจากผู้คนได้ดีมาก ดูตลกขบขัน และ ฝืน ธรรมชาติดี ท้าทายต่อความเป็นเหตุผลและกฎเกณฑ์ที่ควบคุมการดำเนินชีวิตของคนเรา ด้วยการแสดงออกถึงการทำงานอย่างอิสระของจิตไร้สำนึกที่ไร้การควบคุม เป็นงานที่ชื่นชอบมาก ๆ ค่ะ
Serpentine Gallery Pavilion & Serpentine Sackler Gallery
เป็นอีกแกลลอรี่ที่ชื่นชอบและไปบ่อยมาก ๆ ตั้งอยู่ตรง Hyde Park และงานที่มาจัดแสดงทุกงานมีความโดดเด่น อลังการและตราตรึงใจทุกงาน มีทั้ง project เกี่ยวกับการสร้างงานสถาปัตยากรรม ออกแบบ Pavillion โดย Architect ดัง ๆ อย่างในปี 2015 ที่ Jose Selgas and Lucia Cano of SelgasCano สถาปนิกสามีภรรยาชาวสเปน ได้สร้าง pavilion ที่ทำจากเยื่อ translucent ETFE membranes มีความโปร่งแสงสีสดใส เพื่อให้ pavilion ดูเหมือน cocoon รังไหมหลากสีที่ครอบคลุมทางเข้าสาธารณะต่างๆ และร้านกาแฟที่อยู่ตรงกลาง เป็นวัสดุโครงสร้าง ที่เล่นกับแสงและเงาได้สะดุดตามาก อีกงานที่ชื่นชอบจากแกลลอรี่นี้คืองาน Public/Environmental Art ของศิลปินอย่าง Christo and Jeanne-Claude ที่ชื่อดังเกี่ยวกับการสร้างงานศิลปะห่อห์ม (Wrapping Objects/Places) ถูกนำมาจัดแสดงเป็น Sculpture ลอย อยู่กลาง Serpentine Lake ชื่อว่า The London Mastaba เมื่อปี 2019 และอีกงานนึงที่ชอบมาก ๆ คือ Performance Art แบบ Mixed Reality ของ Marina Abramovic ชื่อว่า The Life
ทำไมต้องดำเนินการเรียนต่อ UK กับ IDP
✔ ตัวแทนสถาบันการศึกษาใน UK มากกว่า 100 แห่ง
✔ ตัวแทนมหาวิทยาลัย Russell Group มากที่สุดในประเทศไทย
✔ เจ้าของร่วมข้อสอบ IELTS และศูนย์สอบ IELTS อย่างเป็นทางการ
✔ UK Counsellor ได้รับการรับรองจาก British Council ทุกคน
✔ แนะแนวคอร์สเรียน และมหาวิทยาลัย แนะนำทุนการศึกษาต่างๆ
✔ IDP ช่วยยื่นใบสมัคร ติดตามผลดำเนินการให้ฟรี
✔ IDP ช่วยรีวิวเอกสาร SOP ฟรีโดย Native speaker
✔ IDP ช่วยเหลือจัดหาที่พัก การเปิดบัญชีธนาคาร การทำวีซ่า และเรื่องอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการเดินทาง
✔ IDP คือศูนย์แนะแนวหนึ่งเดียวในไทยที่ได้รับการรับรองคุณภาพ AIRC ต่อเนื่องกัน 7 ปี
✔ ส่งนักเรียนไปศึกษาต่อกว่า 500,000 คน ทั่วโลกและเปิดให้บริการมากกว่า 50 ปี มีมากกว่า 190 สาขา ใน 35 ประเทศทั่วโลก
เราดูแลทุกขั้นตอนจนถึงน้องๆบินไปเรียน ฟรีทุกขั้นตอน สามารถติดต่อพี่ๆที่ดูแล ual ได้ตามด้านล่างนี้ค่ะ
IDP เป็นตัวแทนของ UAL อย่างเป็นทางการเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ให้คำปรึกษาและเตรียมความพร้อมให้นักเรียนที่สนใจไปศึกษาต่อที่ UAL ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี
ฟรี ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคอร์สเรียนตั้งแต่ระดับปริญญา ไปจนถึงคอร์สภาษา และคอร์สระยะสั้น (Short Course)
ฟรี แนะนำแนวทางการเตรียม Portfolio ให้มีโอกาสได้รับการตอบรับ (offer)
ฟรี แนะนำ ช่วยตรวจการเขียน Personal Statement และ Project/ Study Proposal
ฟรี ดำเนินการสมัคร ดูแลการ upload portfolio ก่อน submit และติดตามผลการสมัคร
ฟรี ดูแลการจัดเตรียมเอกสารสำหรับสมัคร Visa นักเรียน (Student Visa/ Tier 4 visa)