St. John's University

วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในนิวยอร์ก ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในย่าน Queens และ Manhattan ควบคู่ไปกับวิทยาเขตอื่นๆในโรม, อิตาลี; ปารีส, ฝรั่งเศส; และลิเมอริก, ไอร์แลนด์

มหาวิทยาลัย St John's มุ่งเน้นในการถ่ายทอดความรู้ที่ช่วยพัฒนาทักษะของนักศึกษาอย่างรอบด้าน เช่นเดียวกับการปลูกฝังจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม หนึ่งในค่านิยมหลักของมหาวิทยาลัยคือ"การให้ความเคารพต่อความหลากหลายของเพื่อนมนุษย์อย่างนอบน้อมผ่านการเรียนรู้และแบ่งปัน เพื่อก้าวสู่การเป็นสังคมแห่งความเกื้อกูล"

มหาวิทยาลัย St John's เปิดสอนหลักสูตรในระดับปริญญาตรีมากกว่า 100 สาขาวิชา เช่นเดียวกับหลักสูตรในระดับบัณฑิตศึกษาที่มีให้เลือกมากกว่า 65 สาขาวิชา ไม่เพียงแต่นักศึกษาจะได้ซึมซับความรู้จากครูผู้สอนที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ แต่ยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกับศิษย์เก่าได้มากกว่า 195,000 คน

บริการช่วยเหลือมากมายจะช่วยให้นักศึกษาสามารถปรับตัวและพัฒนาก้าวหน้ากับชีวิตการเรียนที่มหาวิทยาลัยและหลังจากสำเร็จการศึกษา นักศึกษาของ St. John's University จะมีโอกาสสำเร็จคุณวุฒิปริญญา, มีส่วนร่วมในการเรียนรู้งานบริการและสำเร็จการศึกษาด้วยอนาคตที่สดใส

หลักสูตรที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายล้วนมีส่วนผลักดันให้นักศึกษาสามารถแสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่

มหาวิทยาลัย St John's ประกอบไปด้วยหกคณะวิชาและวิทยาลัยดังต่อไปนี้:

• วิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ St. John's
• คณะวิชาครุศาสตร์
• วิทยาลัยธุรกิจ Peter J. Tobin
• วิทยาลัยเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ
• The Lesley H. and William L. Collins College of Professional Studies
• คณะนิติศาสตร์

หลักสูตรที่เปิดสอนล้วนมีส่วนสำคัญในการบ่มเพาะความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการสรรค์สร้างนวัตกรรม, การค้นคว้าวิจัย, และการต่อยอดความรู้ในระดับที่สูงขึ้น นักศึกษาจึงไม่เพียงแต่มีโอกาสในการพัฒนาทักษะความรู้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ แต่หากยังได้เตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคตได้ด้วยเช่นกัน

นักศึกษาที่ต้องการสมัครเรียนหลักสูตรระดับปริญญาตรีที่ St. John's ต้องส่งใบรับรองผลการเรียน 4 ปีการศึกษาจากระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/มัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า รวมถึงผลการสอบระดับประเทศต่างๆ นอกจากนี้นักศึกษายังสามารถแนบเรียงความ (essay) หรือจดหมายแนะนำตัวมาพร้อมกับใบสมัครได้ด้วยเช่นกัน (แม้จะเป็นเอกสารที่บังคับสำหรับการสมัครเรียนในสาขาเภสัชศาสตร์แต่เพียงเท่านั้น) แต่หากนักศึกษาต้องการเทียบโอนหน่วยการเรียนเพื่อสมัครเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ก็จำเป็นต้องแนบใบรับรองผลการเรียนในระดับ post-secondary ที่ผ่านการประเมินจากทาง NACES

นอกเหนือจากคุณสมบัติในด้านวิชาการ นักศึกษาจำเป็นต้องมีคะแนนสอบวัดระดับความรู้ด้านภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ตามที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด

หลักเกณฑ์ที่ใช้สำหรับวัดระดับความรู้ด้านภาษาอังกฤษ แบ่งเป็นสามรูปแบบดังต่อไปนี้:

• นักศึกษาที่ได้คะแนนสอบ TOEFL ตั้งแต่ 80+ ขึ้นไป, IELTS ตั้งแต่ 6.5+ ขึ้นไป, Duolingo ตั้งแต่ 105+ ขึ้นไป, หรือ SAT Evidenced-Based Reading and Writing score ตั้งแต่ 440+ ขึ้นไป สามารถสมัครเรียนในหลักสูตรที่ต้องการได้ตามปกติ
• นักศึกษาที่ได้คะแนนสอบ TOEFL ตั้งแต่ 61-79, IELTS ที่ 6.0, Duolingo ตั้งแต่ 90-100, หรือ SAT Evidenced-Based Reading and Writing score ตั้งแต่ 400-430 สามารถสมัครเรียนในหลักสูตรระดับปริญญาตรีได้ แต่จำเป็นต้องลงวิชาเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม
• นักศึกษาที่ได้คะแนนสอบ TOEFL, IELTS หรือ Duolingo ต่ำกว่าเกณฑ์ตามที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด จะสามารถสมัครเรียนในหลักสูตรที่ต้องการได้ตามปกติภายหลังสำเร็จหลักสูตรภาษาอังกฤษของทาง English Language Institute

นักศึกษาที่ต้องการสมัครเรียนในระดับบัณฑิตศึกษาจำเป็นต้องแนบใบสมัครออนไลน์, ทรานสคริปต์ (Transcript) ในระดับปริญญาตรี, ใบรับรองผลการเรียนจาก NACES, และคะแนนสอบ TOEFL/IELTS/Duolingo (สำหรับนักศึกษาที่มาจากประเทศที่ไม่ได้รับการยกเว้น) นอกจากนี้นักศึกษายังสามารถแนบเรซูเม่, เรียงความ, และจดหมายแนะนำตัวมาพร้อมกับหลักฐานอื่นๆได้ด้วยเช่นกัน

มหาวิทยาลัย St John's จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาอย่างครบครัน พร้อมทั้งออกแบบห้องเรียนและอาคารเรียนให้มีความทันสมัยเหมาะแก่การเรียนรู้ในทุกรูปแบบ

ภายในวิทยาเขตประกอบไปด้วยห้องสมุดหลายแห่งที่เก็บรวบรวมทรัพยากรด้านการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบหนังสือและไฟล์ดิจิทัล ควบคู่ไปกับร้านค้าของมหาวิทยาลัยที่เปิดจำหน่ายหนังสือเรียนและของใช้จำเป็นอีกมากมาย

หอพักประจำวิทยาเขต Queens ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่ของมหาวิทยาลัย แวดล้อมไปด้วยบรรยากาศอันอบอุ่นและความหลากหลายของร้านอาหารนานาชนิด ไม่เพียงแต่ความสะดวกสบายที่มาในรูปแบบของร้านอาหารและทำเลที่ตั้งของหอพัก แต่นักศึกษายังสามารถเข้าถึงคำปรึกษาที่เป็นประโยชน์สำหรับการเลือกหอพักให้ตอบโจทย์ต่อไลฟ์สไตล์ของตนเองได้เช่นกัน

สวัสดิภาพและความปลอดภัยของทั้งเจ้าหน้าที่และนักศึกษาถือเป็นเรื่องที่ทางมหาวิทยาลัย St John's ให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก โดยสำนักงานด้านความปลอดภัยประจำวิทยาเขตได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลและอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยให้แก่นักศึกษาตลอด 24 ชั่วโมง

บริการด้านความปลอดภัยประกอบไปด้วยการเดินตรวจตราโดยรอบวิทยาเขต, การส่งข้อความแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินที่มาในรูปแบบอีเมลและข้อความเสียง ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำท้องถิ่น

นอกเหนือจากบริการด้านความปลอดภัยตามที่ได้กล่าวไป นักศึกษายังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมือถือLiveSafe เพื่อใช้สำหรับอัพเดทข้อมูลข่าวสารด้านความปลอดภัยไปพร้อมๆกับการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน

มหาวิทยาลัยที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อความเป็นเลิศที่เติบโตก้าวหน้า ซึ่ง St. John's University เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ด้วยแนวทางการทำงานที่ไม่เพียงพัฒนาแต่นักศึกษา แต่ยังรวมถึงทางมหาวิทยาลัยเองด้วย วิทยาศาสตร์สุขภาพ St. Vincent Health Sciences Centerมีกำหนดเปิดใช้งานในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2024 และจะเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้ทักษะในด้านการพยาบาลได้อย่างเต็มรูปแบบ

ไม่เพียงแต่การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกภายในวิทยาเขต แต่ มหาวิทยาลัย St John's ยังมุ่งมั่นในการออกแบบอาคารสถานที่ให้มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัย St John's จึงเป็นสถาบันการศึกษาเพียงแห่งเดียวในนิวยอร์กที่ได้รับการจัดอันดับจาก Princeton Review ให้เป็น 1 ใน 50 มหาวิทยาลัย"สีเขียว" ที่ดีที่สุดของประเทศ

การพัฒนาอย่างต่อเนื่องล้วนเป็นผลมาจากการระดมทุนผ่านเครือข่ายศิษย์เก่าและภาคส่วนต่างๆของสังคม

เป็นเวลามากกว่า 150 ปีที่มหาวิทยาลัย St John's ได้ยึดมั่นต่อพันธกิจในการถ่ายทอดความรู้ในระดับสูงให้แก่นักศึกษาโดยไม่แบ่งแยก ด้วยเหตุนี้งานPresident's Dinnerจึงถูกจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี 1998 เพื่อใช้เป็นช่องทางสำหรับการพบปะของศิษย์เก่า ควบคู่ไปกับการระดมทุนเพื่อใช้สำหรับพัฒนามหาวิทยาลัย ในช่วง 24 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัย St John's สามารถระดมทุนได้มากกว่า 48 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเม็ดเงินจำนวนนี้ได้ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่มีความเป็นเลิศในด้านวิชาการแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์

ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการออกแบบสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในทุกรูปแบบ แต่มหาวิทยาลัย St John's ยังได้ยกระดับคุณภาพนักศึกษาผ่านการสอนที่ได้มาตรฐานในทุกสาขาวิชา

มหาวิทยาลัย St John's เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะความรู้ผ่านการสอนของคณาจารย์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และความชำนาญในการสอนคณาจารย์กว่า 92%ของที่นี่ล้วนเป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอกและเพียบพร้อมไปด้วยมุมมองที่เป็นประโยชน์สำหรับการทำงาน

ด้วยคุณภาพการสอนที่รอบด้าน เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ต่อยอดความรู้ผ่านการฝึกงานกับองค์กรชั้นนำอย่าง US Secret Service, Morgan Stanley, the New York Mets, Sony, and Madison Square Garden